ในยุคดิจิทัลของปัจจุบันนี้ ที่ปรึกษาทางการเงินกำลังใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อปรับรูปแบบการให้บริการลูกค้า หมดยุคของการพึ่งพาสัญชาตญาณและประสบการณ์เพียงอย่างเดียวแล้ว เพราะที่ปรึกษาในปัจจุบันได้นำการวิเคราะห์ข้อมูลมาใช้เพื่อให้คำแนะนำทางการเงินที่เป็นส่วนตัว มีประสิทธิภาพ และครบครันแก่ลูกค้า ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกถึงแนวโน้มที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และสำรวจว่าข้อมูลกลายเป็นรากฐานสำคัญของแนวทางปฏิบัติในการให้คำปรึกษาสมัยใหม่ได้อย่างไร
การสร้างความเฉพาะเจาะจงจากข้อมูลเชิงลึก:
ปัจจุบันที่ปรึกษาทางการเงินเริ่มหันมาใช้ข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้ามากขึ้น เพื่อปรับคำแนะนำและกลยุทธ์ให้ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล ด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ เช่น รายได้ ค่าใช้จ่าย การยอมรับความเสี่ยง และเป้าหมายชีวิต ที่ปรึกษาสามารถนำเสนอโซลูชันที่ตรงตามความต้องการซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์เฉพาะของลูกค้าแต่ละรายได้ดียิ่งขึ้น โดยวิธีการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความสัมพันธ์ระยะยาวที่สร้างจากความไว้วางใจและความเข้าใจระหว่างที่ปรึกษากับลูกค้าอีกด้วย
การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์สำหรับการวางแผนเชิงรุก:
ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง ที่ปรึกษาสามารถคาดการณ์แนวโน้มของตลาดในอนาคตและคาดการณ์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับลูกค้าได้ ด้วยการใช้ประโยชน์จากแบบจำลองการคาดการณ์ พวกเขาสามารถระบุโอกาสและภัยคุกคามได้ล่วงหน้า เพื่อช่วยอำนวยการตัดสินใจเชิงรุกและวางแผนจัดการความเสี่ยงได้ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการปรับพอร์ตการลงทุนหรือปรับกลยุทธ์ภาษีให้เหมาะสม ข้อมูลเชิงลึกก็สามารถช่วยให้ที่ปรึกษาชี้แนะลูกค้าสู่ความสำเร็จทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
“การรับฟังความต้องการจากลูกค้าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด เมื่อรับฟังแล้ว ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เราต้องใช้หลักการและข้อมูลที่จำเป็นของคุณลูกค้าและครอบครัว เพื่อมาวิเคราะห์เป้าหมายที่แท้จริงของคุณลูกค้า แล้วจึงจะนำมาซึ่งขั้นตอนและวิธีการในการแก้ไขปัญหา หากรับฟัง นำเสนอสิ่งที่คุณลูกค้าต้องการ แต่ไม่ได้วิเคราะห์ปัญหาของคุณลูกค้า อาจไม่ได้แก้ปัญหาของคุณลูกค้า หรือแก้ไขได้ไม่ทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่คุณลูกค้ามีความสามารถในการทำประกันวงเงินสูงได้ทั้งหมด ข้อนี้จึงเป็นส่วนสำคัญในการฟังสิ่งที่ลูกค้าไม่ได้พูดออกมา” สมาชิก MDRT คุณณัฏศิวรรษ์ พีระภูริพัฒน์ กล่าว
โซลูชันเพื่อความมั่นคงทางการเงินแบบองค์รวม:
นอกเหนือจากคำแนะนำด้านการลงทุนแบบดั้งเดิมแล้ว ที่ปรึกษาทางการเงินยังสามารถใช้แนวทางแบบองค์รวมเพื่อความมั่นคงทางการเงินของลูกค้า ซึ่งสามารถครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ เช่น การจัดทำงบประมาณ การจัดการหนี้ และการวางแผนเกษียณอายุ ด้วยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากบัญชีและธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ที่ปรึกษาสามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุมเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินและรูปแบบพฤติกรรมของลูกค้าได้ มุมมองแบบองค์รวมนี้จะช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถจัดการกับความท้าทายที่ซ่อนอยู่และจัดเตรียมกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินของลูกค้าในระยะยาว
สมาชิก MDRT คุณอุษณกร ปัญญาวชิร กล่าวถึงการสังเกตแนวโน้มที่สำคัญในพฤติกรรมทางการเงินของลูกค้าผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลว่า “พบว่าปัจจุบัน แนวโน้มที่สำคัญในพติกรรมทางการเงินขอลูกค้า มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเป็นจำนวนมาก โดยเป็นการชำระคืนแบบขั้นต่ำ ซึ่งหนี้บัตรเครดิตมีดอกเบี้ยเรียกเก็บจากทางธนาคารค่อนข้างสูง ประกอบกับเงินสำรองใช้ยามฉุกเฉินยามจำเป็นมีจำนวนที่ลดลง (3-6เดือน) หน้าที่ของปรึกษาการเงินคือพยายามอธิบาย และวางแผนการเงินให้ลูกค้า การชำระคืนหนี้ต่าง ๆ ให้เร่งชำระคืนหนี้บัตรเครดิตเป็นอันดับต้น ๆ หลังจากคืนหนี้บัตรเครดิตแล้ว จึงเร่งเตรียมเงินสำรองใช้ยามฉุกเฉิน เก็บออมวางแผนเพื่อวางแผนทางการเงินต่อไป ซึ่งเราในฐานะที่ปรึกษาการเงินควรเร่งปรับกลยุทธ์ ออกแนะนำประโยชน์ของการวางแผนการเงิน เร่งออกพบลูกค้าเพื่อวางแผนให้กับคนไทยและสังคมไทยเพื่อแผนการเงินที่มั่นคงและมั่งคั่ง”
“ในปัจจุบันคุณลูกค้ามีความเข้าใจเรื่องการเงิน ดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อมากขึ้น เดิมอาจกังวลเรื่องการปกป้องเงินต้น จึงไม่กล้าลงทุนเนื่องจากกังวลเรื่องความผันผวนของตลาดแต่เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำลง เงินเฟ้อสูงขึ้น การลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และเมื่อคุณลูกค้ามีความเข้าใจในภาพรวมของสภาวะตลาด การลงทุน จึงเห็นโอกาสในการเริ่มลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากขึ้น ดังนั้นการที่เราเป็นที่ปรึกษาทางการเงินจึงควรเข้ามาวางแผนเพิ่มพูน และปกป้องความเสี่ยงจากปัจจัยทางการเงินให้แก่คุณลูกค้าคนสำคัญ” คุณณัฏศิวรรษ์ พีระภูริพัฒน์ กล่าวเสริม
การปรับใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยี:
การถือกำเนิดของปัญญาประดิษฐ์ (AI) การเรียนรู้ของเครื่องมือ (Machine Learning) และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ได้เปิดขอบเขตใหม่สำหรับบริการให้คำปรึกษาทางการเงิน ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ปรึกษาสามารถใช้ประโยชน์จากอัลกอริธึมที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อทำให้งานประจำเป็นอัตโนมัติได้ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจลงทุน และปรับปรุงการโต้ตอบกับลูกค้าผ่านแชทบอท นอกจากนี้ เทคโนโลยีบล็อกเชนยังเข้ามาปรับเปลี่ยนแง่มุมต่าง ๆ เช่น การจัดการสินทรัพย์และการยืนยันตัวตน การขับเคลื่อนประสิทธิภาพและความโปร่งใสในกระบวนการให้คำปรึกษา เป็นต้น
เมื่อพูดถึงเครื่องมือและเทคโนโลยีที่นำมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก คุณอุษณกร ปัญญาวชิร กล่าวว่า “ปกติผมใช้การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผนทางการเงินโดยใช้แนวทางของ MFA (Master Financial Advisor) by LIMRA โดยเป็นการเก็บข้อมูลทั้งในส่วนของข้อมูลปัจจุบัน เป้าหมายทางการเงิน พร้อมทั้งข้อเสนอแนะและแนวทางในการปฏิบัติ ซึ่งยังครอบคลุมถึงงบดุลและงบกระแสเงินสดด้วย และที่สำคัญยังรวมถึงเป้าหมายที่สำคัญในชีวิต งบประมาณที่สามารถ บริหารด้วย มากไปกว่านั้นผมยังใช้ app “Wealth Navi” ซึ่งเป็น app ที่ช่วยในการรวบรวมข้อมูล รวมถึงการรายงานในรูปแบบที่ สวยงาม เข้าใจง่าย”
ในขณะที่อุตสาหกรรมการปรึกษาทางการเงินยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การเสริมสร้างการวิเคราะห์ข้อมูลสามารถเข้ามากำหนดความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับที่ปรึกษาในยุคใหม่ได้ด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อมูล ซึ่งที่ปรึกษาสามารถส่งมอบบริการที่เป็นส่วนตัว กลยุทธ์เชิงรุก และความปลอดภัยที่มากขึ้น เพื่อช่วยตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าด้วยเหตุนี้ การใช้กลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจึงไม่ได้เป็นเพียงแนวโน้ม แต่เป็นการเปลี่ยนกระบวนทัศน์พื้นฐานที่จะกำหนดอนาคตของบริการที่ปรึกษาทางการเงินต่อไป
Contact: MDRTEditorial@teamlewis.com