ลดเวลาการเขียนของคุณ: ใช้ประโยชน์จากพลังของ ChatGPT

โดย Antoinette Tuscano

เมื่อก่อนนี้ นักเขียนต้องแม่นยำเรื่องการสะกดคำ ไม่เช่นนั้น เวลาในการเขียนจะต้องเพิ่มเป็นสองเท่า เพราะในการที่จะหลีกเลี่ยงการสะกดผิดจำนวนมาก เราต้องใช้เวลาไปกับการเปิดหาคำในพจนานุกรมที่โต๊ะทำงาน

เมื่อมีโปรแกรมตรวจตัวสะกด นักเขียนต่างดีใจ พจนานุกรมเข้าไปอยู่ในออนไลน์ พจนานุกรมแบบเล่มกลายเป็นสิ่งล้าสมัย เพราะคำใหม่และการสะกดใหม่มีขึ้นมาทุกวันอย่างไม่เคยจบสิ้นในภาษาอังกฤษ

โปรแกรมตรวจตัวสะกดเองก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบนัก แต่คุณก็ยังต้องใช้อยู่ดี เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อเราคิดถึงเครื่องมืออย่าง ChatGPT ในแบบเดียวกัน เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถช่วยงานในด้านการเขียนได้หลายอย่าง ตั้งแต่อีเมลไปจนถึงโพสต์โซเชียลมีเดียและสคริปต์การขาย และยังทำได้แม้กระทั่งการสรุปเอกสารยาว ๆ

ตัวอย่างเช่น ChatGPT เวอร์ชันชำระเงิน เรียกว่า GPT-4 สามารถสรุปสัญญาได้ Brad J. Myers สมาชิก MDRT 22 ปีจากเดรปเปอร์ ยูทาห์ สหรัฐอเมริกากล่าว ChatGPT คือวิธีที่ดีในการเริ่มงานที่เกี่ยวกับการเขียน เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องจดจ้องแผ่นกระดาษว่างเปล่าที่ไร้ความปราณีนั่น ลูกค้ายังคงต้องการได้รับการสื่อสารจากคุณ ที่ฟังจริงใจและเหมือนคุณรู้จักพวกเขา ดังนั้น คุณจึงควรใช้เวลาในการใส่บุคลิกและข้อมูลเชิงลึกของคุณเข้าไปในสิ่งใดก็ตามที่คุณส่งให้ลูกค้า

John R. Benton Jr., ChFC, CLTC กล่าวว่าเขาใช้ AI สำหรับข้อสอบถามจากลูกค้าเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการที่ลูกค้าจะยกเลิกประกันชีวิตแบบช่วงระยะเวลาหลังจากที่บุตรของพวกเขาจบมหาวิทยาลัย “AI ให้คำตอบที่ดีที่จำเป็นต้องมีการปรับแต่งถ้อยคำให้ฟังเหมือนมาจากผม แต่มันเกิดขึ้นในเวลาไม่กี่วินาที และแทบไม่ต้องใช้ข้อมูลอะไรจากผมเลย” Benton สมาชิก 20 ปีจากวอร์เรน นิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกากล่าว

ความรับผิดชอบของ AI

ไม่ว่าคุณจะใช้เครื่องมืออะไร การตรวจสอบข้อผิดพลาดและความไม่ถูกต้องเป็นสิ่งที่สำคัญ คุณคือผู้รับผิดชอบต่อสิ่งที่ออกไปจากสำนักงานของคุณ การจะบอกว่าเป็นสิ่งที่มาจาก AI ไม่ใช่ข้อแก้ตัวทั้งในแง่กฎหมายหรือจริยธรรม ในบางครั้ง AI สามารถสร้างข้อมูลขึ้นมาจากข้อมูลที่ความผิดพลาด ซึ่งเรียกว่าอาการหลอน ซึ่งเป็น “การนำขยะเข้า จะได้ผลลัพธ์ขยะออก” แบบเก่า ๆ สำหรับข้อมูล ยิ่งไปกว่านั้น ต้องระวังปัญหาด้านจริยธรรมและการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่อาจเกิดขึ้นจาก ChatGPT อย่าอัปโหลดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนใด ๆ เพราะจะถูกบันทึกและผู้ใช้รายอื่นอาจเห็นได้ อย่างไรก็ตาม ChatGPT นั้นใช้ง่าย และคู่ควรสำหรับการเป็นเครื่องมือที่ช่วยประหยัดเวลาในการเขียน

การใช้ ChatGPT

ChatGPT มีสองเวอร์ชัน เวอร์ชันฟรีและเวอร์ชันชำระเงินเรียกว่า GPT-4 ซึ่งมีเครื่องมือเพิ่มเติมอย่างเช่น DALL·E 3 สำหรับการสร้างรูปภาพและการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง ที่ทำให้คุณสามารถอัปโหลดไฟล์ได้ และทำสิ่งต่าง ๆ เช่น การสรุปสัญญา เวอร์ชันฟรีเป็นจุดที่ดีสำหรับการเริ่มต้น เพราะสามารถเขียนได้ในเวลาไม่กี่วินาที เช่น อีเมลส่วนใหญ่ที่พูดคุยเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างประกันแบบชั่วระยะเวลาและตลอดชีพ

คำสั่งหรือ Prompt ที่คุณป้อน ChatGPT คือสิ่งสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของเครื่องมือ ยิ่งคุณให้รายละเอียดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี นอกจากนี้ คุณยังสามารถเตรียมพร้อมการคุยโดยการให้ข้อมูลกับ AI ว่าคุณคือใคร เช่น เป็นที่ปรึกษาการเงินในสิงคโปร์ ซึ่งมีตลาดเฉพาะเป็นแพทย์ ต่อไปนี้คือตัวอย่างพลังของ ChatGPT ด้วย Prompt นี้ ChatGPT เขียนเหตุผลเจ็ดข้อภายเวลาน้อยกว่า 30 วินาที ด้านล่างนี้ สามในเจ็ดเหตุผลรวมอยู่ด้วย

Prompt:สิ่งที่เป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุดในการซื้อประกันชีวิตสำหรับแพทย์ที่อายุระหว่าง 40 และ 50 ปีที่อาศัยอยู่สิงคโปร์คืออะไร

คำตอบของ ChatGPT(แก้ไขเพื่อให้เหมาะกับพื้นที่): สำหรับแพทย์ที่อายุระหว่าง 40 ถึง 50 ปีที่อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ อาจมีอุปสรรคเกิดขึ้นได้หลายข้อ เมื่อต้องซื้อประกันชีวิต ต่อไปนี้คืออุปสรรคบางประการที่สำคัญที่สุดที่พวกเขาต้องเผชิญ:

1. ราคาที่ผู้บริโภครับรู้ หนึ่งในอุปสรรคขั้นต้นของการซื้อประกันชีวิตสำหรับกลุ่มประชากรนี้คือราคาที่ผู้บริโภครับรู้ แพทย์ในกลุ่มอายุนี้อาจมีความคาดหวังสูงสำหรับระดับความคุ้มครอง และอาจเชื่อว่าความคุ้มครองของประกันชีวิตที่เพียงพอจะมีราคาแพง โดยเฉพาะหากพวกเขามีโรคประจำตัว หรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง

2. ขาดความตระหนักรู้หรือความเข้าใจ แม้ว่าจะมีความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ แพทย์อาจไม่ได้เข้าใจความสลับซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต รวมถึง ความคุ้มครองประเภทต่าง ๆ ที่ให้บริการ ประโยชน์ของกรมธรรม์แต่ละแบบ และประกันชีวิตจะเหมาะสมกับแผนการเงินโดยรวมของตนอย่างไร การขาดความตระหนักรู้หรือความเข้าใจนี้ อาจนำไปสู่ความเฉื่อยชาหรือการไม่ตัดสินใจ เมื่อต้องซื้อประกันชีวิต

3. ความรับรู้ที่ผิดเกี่ยวกับความคุ้มครองที่จำเป็น แพทย์อาจประเมินความจำเป็นที่จะต้องมีประกันชีวิตของตนต่ำไป หรือประเมินความคุ้มครองที่ให้โดยผลประโยชน์จากนายจ้างหรือแผนดูแลสุขภาพของรัฐสูงไป พวกเขาอาจเชื่อว่ารายได้และทรัพย์สินของตนมีมากพอที่จะให้ความมั่นคงทางการเงินแก่ครอบครัวในกรณีที่พวกเขาเสียชีวิต โดยมองข้ามโอกาสที่จะเกิดค่าใช้จ่าย เช่น หนี้สินเกินกำหนดชำระ ค่าใช้จ่ายในการศึกษาในอนาคตสำหรับบุตร หรือค่าครองชีพสำหรับคนที่พวกเขาต้องดูแล

คุณอาจพบว่าการใช้เวลาสักห้านาทีในการลองใช้งาน ChatGPT เป็นเวลาที่คุ้มค่า

สมาชิกและผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกมาแบ่งปันวิธีที่พวกเขาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ค้นหาแรงบันดาลใจ และสร้างสมดุลให้กับชีวิตและการงานในบล็อก MDRT รับข้อมูลเชิงลึกที่ส่งไปยังอีเมลของคุณสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อสมัครรับข้อมูลหรือไปที่ mdrtblog.org/subscribe