เคล็ดลับการฟื้นฟูสุขภาพจิตในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อต้อนรับปี 2024 ด้วยจิตใจที่แจ่มใส

ในช่วงเวลาปีใหม่ เป็นช่วงที่ใครหลายคนมักจะเฉลิมฉลอง และกว่าจะออกสตาร์ท เริ่มกลับมาทำหน้าที่ที่ปรึกษาทางการเงินอีกครั้ง ก็มักจะใช้เวลาอีกเป็นเดือน แต่ สมาชิก MDRT คุณวริศา มณีธวัช มักเริ่มฟื้นฟูจิตใจตั้งแต่สิ้นปีเพื่อพร้อมกลับมาเริ่มงานในต้นปี “ส่วนตัวฉันเองคิดว่า ช่วงปีใหม่นี่แหละ ที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเริ่มทำสิ่งใหม่ รวมถึงสานต่อสิ่งที่ค้างคาในปีเก่า ในเมื่อเราเฉลิมฉลองกับเทศกาลนี้ตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่แล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะรอเวลาอีกต่อไป เราควรจะเคลียร์ความรู้สึก และฟื้นฟูสุขภาพจิตใจตั้งแต่ก่อนถึงปีใหม่ ทิ้งทุกอย่างที่แย่ๆ เขียนรายการสิ่งที่อยากทำ และเริ่มต้นทำมันในวันที่ 1 มกราคม ฉันขอบอกความลับคุณ 1 ข้อ ที่ทำให้ฉันติดคุณวุฒิ TOT ปี 2023 ในขณะที่ที่ปรึกษาท่านอื่นกำลังทำใจกับการกลับมาทำงานช่วงหลังปีใหม่ ฉันตั้งเป้าหมายตั้งแต่ก่อนสิ้นปี ว่าจะทำคุณวุฒิ TOT ให้ได้ และเริ่มปฏิบัติงานเลยตั้งแต่ 1 มกราคม 2022 นั่นทำให้ฉันมีเวลาเต็มที่ สุดท้ายก็พิชิตคุณวุฒิ TOT มาได้ ซึ่งฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าถ้าหากฉันเริ่มต้นช้ากว่านี้ 1 เดือน ฉันจะยังได้รับคุณวุฒินี้อยู่ไหม” 

ในทางกลับกัน คนอื่นๆ อาจชอบที่จะใช้เวลาชาร์จพลังและไตร่ตรองถึงปีที่ผ่านมาเหมือน สมาชิก MDRT คุณพรชัย แม้นธนาวงศ์สิน “ในแต่ละปี แน่นอนว่าจะมีทั้งเคสที่เรามีโอกาสได้ไปวางแผนการเงินให้ลูกค้าอย่างประสบความสำเร็จลูกค้าให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ ตัดสินใจวางแผนกับเรา และก็มีหลายเคสที่ล้มเหลวลูกค้าบอกปฏิเสธเรา ขอเลื่อนการตัดสินใจออกไปก่อน สิ่งนี้เป็นสัจธรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอนสำหรับธุรกิจตรงนี้ สำหรับผมแล้วผมมีวิธีฟื้นฟูจิตใจ คือ การที่เราวางแผนไปท่องเที่ยวประจำปีเพื่อรีชาร์จเติมไฟเติมพลังใจ ใช้เวลาอยู่กับคนที่เรารัก รับแต่พลังงานบวกเพื่อกลับมาทำงานอย่างเต็มที่อีกครั้ง อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือ หมั่นเข้าฟังวิชาการที่จะช่วยเติมทัศนคติที่ดีและมาสร้างรายชื่อใหม่เพื่อที่จะกลับมาลุยต่อ เพราะผมเชื่อเสมอว่าเราตั้งใจที่จะมอบแผนการเงินที่ดีให้กับลูกค้า ดังนั้นถ้าลูกค้าท่านแรกยังไม่พร้อม เราก็แค่เข้าพบลูกค้าท่านถัดไปเพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีต่อไปครับ” 

ทั้งนี้ไม่ว่าคุณจะเลือกฟื้นจิตใจด้วยวิธีไหนก็ตาม นี่คือ เคล็ดลับการฟื้นฟูสุขภาพจิตในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ต้อนรับปี 2567 ด้วยจิตใจที่แจ่มใส 

เสริมสร้างสติในตอนเช้าและเย็น 

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความตั้งใจและจบวันด้วยความสงบ ในตอนเช้า ฝึกเจริญสติ เช่น การนั่งสมาธิหรือการหายใจลึกๆ เพื่อสร้างบรรยากาศเชิงบวกสำหรับแต่ละวัน สร้างกิจวัตรช่วงเย็นที่ประกอบไปด้วยกิจกรรมที่ช่วยสร้างความสงบ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ยืดเส้นยืดสาย หรือการอาบน้ำอุ่น เพื่อผ่อนคลายและส่งเสริมการนอนหลับพักผ่อน โดยช่วงเวลาอันมีค่าเหล่านี้ในช่วงเริ่มต้นและสิ้นสุดของวันสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อสภาพจิตใจโดยรวมของคุณ 

กลยุทธ์ในการสร้างสมดุลชีวิต 

สร้างสรรค์และรักษาขอบเขตที่มั่นคงเพื่อความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานที่ไร้รอต่อ กำหนดชั่วโมงทำงานที่เฉพาะพยายามที่จะทำงานให้เสร็จในเวลาที่กำหนด โดยพยายามที่จะไม่เช็คอีเมลหรือทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับงานนอกเวลาเหล่านี้ พร้อมสื่อสารขอบเขตของคุณกับเพื่อนร่วมงานและลูกค้าอย่างชัดเจน การแบ่งแยกระหว่างอาชีพและชีวิตส่วนตัวด้วยความเจตนานี้เป็นสิ่งสำคัญในการลดความเหนื่อยหน่ายและรับประกันความเป็นอยู่ที่ดีของจิตใจอย่างยั่งยืน 

การปรับใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด 

ใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติเพื่อลดความเครียด กำหนดเวลาที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการเช็คอีเมลและข้อความ เพื่อให้มีสมาธิในการทำงานระหว่างนั้น กำหนดช่วงเวลาที่ไม่ใช้เทคโนโลยีในระหว่างวันเพื่อลดการรับข้อมูลมากเกินไปและป้องกันปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจทำให้คุณเสียสมาธิได้ แนวทางการใช้เทคโนโลยีโดยเจตนานี้ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้น โดยช่วยลดความเครียดที่เกี่ยวข้องกับโลกดิจิทัลที่เชื่อมต่ออยู่ตลอดเวลา โดยการควบคุมเวลาในการใช้เทคโนโลยี จะช่วยสร้างพื้นที่สำหรับสุขภาพจิตและสมาธิที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นต่อไป 

เสริมสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง 

“ทุกๆ ปี ในช่วงต้นปี ผมมักที่จะตั้งเป้าหมายประจำปีเพื่อที่จะท้าทายตัวเองอยู่เสมอ เช่น ถ้าปีที่แล้วเราพิชิตคุณวุฒิ MDRT ปีต่อมาเราก็จะต้องสามารถพิชิตคุณวุฒิในระดับที่สูงกว่า หรือถ้าปีที่แล้วทีมงานของเราสามารถพิชิตคุณวุฒิ MDRT ได้กี่ท่าน ในปีถัดไป เราก็จะเพิ่มจำนวนผู้พิชิตคุณวุฒิขึ้นไปอีก โดยผมมีแรงจูงใจว่าถ้าเราและทีมงานทำงานเต็มที่ ไม่เพียงแต่เราจะประสบความสำเร็จทางการเงิน เรายังมีส่วนร่วมช่วยทำให้ลูกค้ามีความมั่นคงทางการเงินเพิ่มขึ้นด้วย อันจะทำให้สังคมและประเทศของเรามีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปครับ” สมาชิก MDRT คุณพรชัย แม้นธนาวงศ์สิน กล่าว 

“แรงจูงใจตั้งแต่วันแรกที่ฉันมาเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน จนถึงวันนี้ ไปจนถึงปีใหม่ (และน่าจะเป็นแรงจูงใจเดิมในอีก 10-20 ปีข้างหน้า) คือการได้เห็นคุณภาพชีวิต ของคนอื่นๆ ดีขึ้น จากการที่ฉันได้ไปช่วยวางแผนการเงิน ทำให้โครงสร้างสามเหลี่ยมทางการเงินของครอบครัวพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น อาชีพของพวกเรา ช่วยลดปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้นในสังคมนี้ เราทำให้เด็กกำพร้า ยังได้เรียนหนังสือ  เราทำให้คนที่ตรวจเจอโรคร้าย พอมีเวลาปรับตัวด้านการเงิน  เราทำให้คนแก่มีชีวิตที่ดีหลังเกษียณ เราทำอาชีพที่สุดท้ายจะมีคนนึกขอบคุณอยู่ตลอดเวลา แล้วเหตุผลอะไร? ที่จะทำให้เราไม่มีแรงจูงใจในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ ในเมื่องานของเรามีความสำคัญขนาดนี้” สมาชิก MDRT คุณวริศา มณีธวัช กล่าวปิดท้าย 

การจัดลำดับความสำคัญของความเป็นอยู่ที่ดีในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินไม่ได้เป็นประโยชน์สำหรับคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่มันเป็นสิ่งสำคัญในการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของคุณ การปรับใช้เคล็ดลับเหล่านี้เข้ากับกิจวัตรประจำวันของคุณ จะช่วยให้คุณสามารถต้อนรับปี 2024 ด้วยจิตใจที่ชัดเจน พร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่รออยู่ข้างหน้าโปรดจำไว้ว่า จิตใจที่แข็งแรงเป็น
รากฐานสำคัญสำหรับความสำเร็จในอาชีพการงานในอุตสาหกรรมการเงิน 


Contact: MDRTEditorial@teamlewis.com