คนทำงานในทุกสายอาชีพย่อมมีความจำเป็นต้องหมุนตามกระแสสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่อาชีพที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ต้องพบเจอหลากหลายความเปลี่ยนแปลงจากหลายปัจจัยทางตลาด อาทิ สภาวะที่เศรษฐกิจผันผวน รายได้ของลูกค้าที่ไม่แน่นอน หรือแม้แต่ความเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างของสังคมอย่างการที่ประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ รวมถึงเทรนด์อื่นๆที่จะมีผลกระทบต่อการประสบความสำเร็จในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน
การเปลี่ยนแปลงในกระแสโลกส่งผลต่อเทรนด์ในประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากบทความในหัวข้อ เทรนด์ประกันภัยปี 2567-2568 จาก thestorythailand.com กล่าวว่า “ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนไปตามกระแสโลก วงการประกันภัยก็จะต้องหมุนไปให้ทันการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ แต่ในการจะปรับตัวให้ทันโลกนั้นก็ยังต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย หนึ่งในปัจจัยสำคัญหลักๆของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาคือการที่สังคมกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือ Aging Society” ปัจจุบันอัตราการเกิดน้อยลงเป็นอย่างมาก จากการรายงานของ Thai PBS ที่แสดงให้เห็นถึงอัตราการเกิดในปี 2564 อยู่ที่ 544,570 คน ลดลงมาเหลือ 510,000 คนในปี 2566 ภายในระยะเวลา 3 ปี อัตราการเกิดนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัดและมีแนวโน้มที่จะลดลงมาอีกในปีต่อๆมา คุณสุรกิจ พิทักษ์ภากร สมาชิก MDRT 14 ปีจากกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบันคนไม่ค่อยมีลูก แต่งงานช้า เนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้น และคนส่วนมากคำนึงถึงเรื่องสุขภาพของตนเป็นหลัก ค่าใช้จ่ายพยาบาลก็สูงขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ” นอกเหนือจากสังคมสูงวัยที่เริ่มเป็นหนึ่งเทรนด์ในโลกประกันภัยในประเทศไทย อีกหนึ่งประเด็นที่คนหยิบยกขึ้นมาให้ความสนใจมากขึ้นคือเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่ส่งผลกระทบให้กับคนในแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน อาทิ บางพื้นที่ประสบปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ในทุกปี ทำให้เทรนด์การทำประกันภัยแบบ Personalized เริ่มเป็นที่นิยม “เทคโนโลยีการแพทย์ก็มีแต่จะพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้คนเรามีโอกาสที่จะมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น แต่ก็ต้องวางแผนการเงินให้เพียงพอที่จะใช้จ่ายในยามเกษียณด้วย การวางแผนคุ้มครองสุขภาพและโรคร้ายแรงรวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลก็มีแนวโน้มสูงขึ้น ดังนั้นการโอนความเสี่ยงเกี่ยวกับเรื่องค่ารักษาพยาบาล จึงเป็นสิ่งที่จะมีความจำเป็นมากขึ้นในอนาคตแน่นอน” คุณสุรกิจกล่าวเสริม
รับมือกับเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลง
ด้วยการเปลี่ยนแปลงในสังคม ทำให้ลูกค้ารวมถึงตัวเราในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินก็ต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงตามเทรนด์เหล่านั้นด้วยเช่นกัน ลูกค้าหลายคนในวัยใกล้เกษียณเริ่มมีความตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงในการเข้าสู่สังคมสูงวัยนี้ขึ้นหลังจากได้พูดคุยกันในหัวข้อการลงทุน คุณสุรกิจเล่าว่า “เคยได้เข้าไปช่วยดูแล วางแผนการเงินให้ลูกค้าที่เป็นผู้บริหารระดับสูงท่านนึง เขาได้มีการวางแผนการลงทุนที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นหุ้นสามัญ กองทุนรวม หรือ ทองคำ และเป็นผู้ที่มีความรู้การเงินในระดับพอใช้ได้ เพราะติดตามข่าวสารการลงทุนตามรายการต่างๆเสมอ จึงได้มีโอกาสพูดคุยกันและเราได้จุดประเด็นคำถามที่ทำให้ลูกค้าท่านนี้สนใจขึ้นมาเนื่องจากเราสอบถามลูกค้าว่า “คุณลูกค้าคิดว่าเมื่อถึงวัยเกษียณ Port การลงทุนต่างๆ จะยังดีกว่าวันนี้มั้ย และถึงตอนนั้นเรายังต้องมาติดตามข่าวการเงินการลงทุน ข่าวเศรษฐกิจ อย่างวันนี้มั้ย” จึงทำให้ลูกค้าท่านนี้ตระหนักถึงความสำคัญในการวางแผนช่วงเกษียณเพราะอยากได้ไลฟ์สไตล์ที่มีเงินใช้แบบ passive income เราจึงได้ให้คำปรึกษา ให้ความรู้ ร่วมทำความเข้าใจกับลูกค้าในเรื่องของกรมธรรม์แบบบำนาญ และลูกค้าตัดสินใจไปต่อกับทางเลือกที่เราแนะนำ”
เดินหน้าพร้อมเทรนด์
การที่เราจะรู้เท่าทันแนวโน้มของเทรนด์ได้ทันถ้วงทีนั้นสามารถทำได้ด้วยหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสัมนาของต้นสังกัดหรือจากสมาคมที่ปรึกษาการเงิน หรือแม้แต่ในสื่อ social media ในช่องทางอย่าง Youtube, Facebook, Tiktok หรือ Instagram แต่แค่เพียงการตามข่าวสารนั้นอาจไม่เพียงพอ คุณสุรกิจ แนะนำ 3 วิธีที่จะช่วยให้เราในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินเตรียมตัวกับการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ก้าวทันเทรนด์ดังนี้
- ศึกษาหาความรู้จากสื่อต่างๆอยู่เสมอ จริงๆแล้วนี่คือสิ่งจำเป็นสำหรับทุกธุรกิจและสายงานเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในอนาคต รวมถึงการติดตามข่าวสารของประเทศอื่นๆที่อาจจะมีความก้าวหน้าในธุรกิจนี้หรือสายงานนี้มากกว่าประเทศไทยเพื่อก้าวทันเทรนด์โลก ข่าวธุรกิจ เศรษฐกิจ หุ้น หรือแม้แต่ข่าวเชิงการแพทย์ก็เป็นอีกหนึ่งแขนงที่มีความจำเป็นในการทำงานในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินด้วยเช่นกัน
- คุยและปรึกษากับลูกค้าอยู่เสมอเพื่อติดตามความต้องการในแต่ละช่วงของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ สอบถามลูกค้าหากลูกค้ามีความต้องการด้านใดเป็นพิเศษในช่วงนี้ เราจะได้ใช้โอกาสนี้ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าพร้อมทั้งเสนอโอกาสการให้บริการทางด้านการเงินให้ลูกค้าเพิ่มเติม
- การหาคู่ค้าทางธุรกิจที่หลากหลายและสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เช่น การจับคู่ทางธุรกิจให้แก่ลูกค้า แนะนำลูกค้าในต่างอุตสาหกรรมให้ได้รู้จักกัน เพื่อที่ลูกค้าในความดูแลของเราจะได้รับบริการที่หลากหลายขึ้น และเราสามารถเป็นที่พึ่งให้ลูกค้าได้ในหลายๆทาง
นอกเหนือจาก 3 วิธีข้างต้น คุณสุรกิจ ยังกล่าวอีกว่า “ในช่วงนี้ถึง 3 ปีข้างหน้า ลูกค้าจะมองหามืออาชีพในสายงานนี้มากขึ้น ซึ่งความเป็นมืออาชีพต้องมีทั้งความรู้ด้านผลิตภัณฑ์ทั้งในส่วนของประกัน และส่วนของสินค้าการเงิน เนื่องจากนวัตกรรมทางการเงินเปลี่ยนแปลงทุกวัน ดังนั้นลูกค้าก็ต้องการมืออาชีพที่มีความรู้ด้านการวางแผนการเงินพร้อมประเด็นอื่นๆอย่างเจาะลึกมาแนะนำการจัดสำรับทางการเงินที่เหมาะสมกับลูกค้า ดังนั้นใครที่ทำธุรกิจนี้ไม่จริงจัง เช่น ทำอาชีพนี้แบบพาร์ทไทม์จะค่อยๆหายไปเพราะขาดการพัฒนาตนเองในธุรกิจนี้ ส่วนคนที่ทำงานนี้แบบเต็มเวลาก็ต้องไม่หยุดการพัฒนาตนเอง ต้องหมั่นเติมความรู้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังต้องสร้างความน่าเชื่อถือแก่ตนเองอย่างสม่ำเสมอ ที่ปรึกษาการเงินที่ไม่หยุดพัฒนาก็จะทำงานนี้ได้อย่างมั่นคงและเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าแน่นอน”
สุดท้ายนี้ คุณสุรกิจยังกล่าวอีกว่า “อาชีพที่ปรึกษาทางการเงินนี้ยังคงมีอนาคตที่สดใส และยังคงเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ลูกค้ายังคงต้องการมืออาชีพระดับ MDRT อีกมากมายที่จะช่วยให้เขามีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวผ่านสินค้ากรมธรรม์ต่างๆของเรา ดังนั้นขอเชิญชวนให้ MDRT ทุกๆ คน อย่าหยุดการพัฒนา อย่าหยุดการเรียนรู้ เพราะเส้นทางสายอาชีพที่ปรึกษาทางการเงินของเราจะได้เติบโต และส่งผลให้ประเทศของเรามีประชากรที่มีความมั่งคังอย่างยั่งยืนเพิ่มขึ้นทุกปี” ยิ่งไปกว่านั้น คุณสุรกิจยังเผยถึงเคล็ดไม่ลับในการดำรงคุณวุฒิ MDRT ที่ยืนยาวกว่า 14 ปีอีกว่า “การตั้งเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ โดยส่วนตัวเราตั้งเป้าหมายในการพิชิตคุณวุฒิ MDRT ให้ได้ภายใน 6 เดือนแรกของแต่ละปี เป้าหมายนี้จะช่วยทำให้เราวางเป้าหมายในแต่ละเดือนได้มากขึ้น การวางแผนงานต่อจากนี้ก็จะมีรายชื่อผู้มุ่งหวังในแต่ละเดือน โดยส่วนมากจะมาจากการเข้าพบลูกค้าเก่าและสรุปผลประโยชน์เดิมและช่วยแนะนำเพิ่มเติมในส่วนที่ลูกค้ายังขาดอยู่ อีกทั้งยังขอให้ลูกค้าแนะนำรายชื่อต่ออย่างน้อย 1 รายเสมอ ทั้งหมดนี้จะทำให้เรามีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 15-20 รายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้เราพิชิตคุณวุฒฺิ MDRT ได้เร็วขึ้นในทุกๆปี”
Contact: MDRTeditorial@teamlewis.com